เทคนิคดูแลแมวอ้วนให้สุขภาพดี

แมวเหมียวขึ้นชื่อเรื่องความน่ารักน่ากอด บวกกับมีนิสัยลึกลับน่าค้นหา ทำให้พวกเค้ากลายเป็นไอคอนที่โด่งดังไปทั่วโลกและถูกพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลให้บรรดาทาสแมวยิ่งหลงใหลคลั่งไคล้เจ้าเหมียวกันมากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับความนิยมที่เพิ่มขึ้น คือความเชื่อผิด ๆ ที่ว่าแมวยิ่งอ้วนยิ่งดูน่ารัก
เป็นความจริงที่ว่าแมวอ้วนดูน่ารักชวนให้ใจละลาย พอเห็นก็มักจะอดใจไม่ไหว ต้องเข้าไปกอดหรือคลอเคลีย และด้วยความน่ารักนี้เองทำให้เกิดกระแสการเลี้ยงแมวให้ตัวอ้วนกลม ซึ่งทาสแมวจำนวนมากก็เลือกที่จะทำตาม โดยไม่สนใจผลเสียหรือความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพมากมายที่อาจตามมา
โรคอ้วนในแมวคืออะไร?
เจ้าเหมียวเป็นนักกินตัวยง และไม่สามารถหักห้ามใจได้เมื่อถึงเวลากินอาหาร นิสัยกินเก่งหรือการให้อาหารปริมาณมากเกินไปเป็นสาเหตุของโรคอ้วนในแมว โดยน้ำหนักตัวที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แต่หากน้องแมวมีน้ำหนักสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 20% ขึ้นไป ก็จะถูกพิจารณาว่าอ้วน
แมวมีน้ำหนักเกินได้หรือไม่?
หากมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ประมาณ 10 - 20% ก็เท่ากับว่ามีน้ำหนักเกินแล้ว มันอาจจะไม่รุนแรงเท่าการเป็นโรคอ้วน แต่ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเจ้าเหมียวได้เช่นกัน โดยปัญหาน้ำหนักเกินอาจทำให้แมวเกิดความเครียด มีภาวะซึมเศร้า และระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อและเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วยด้วยปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำหนักตัวเกิน เรามีเคล็ดลับดูแลสุขภาพแมวตัวอ้วนเหล่านี้มาฝากกัน
ผลกระทบจากการเป็นโรคอ้วน
-
เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก
น้องแมวสามารถกระโดดและปีนป่ายได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพราะความคล่องแคล่วว่องไวและขาหลังที่แข็งแรง แต่เมื่อมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น การกระโดดหรือปีนป่ายก็ยากขึ้นตามไปด้วย
-
ช่วงเอวหนาขึ้น
รูปร่างผอมเพรียวทำให้น้องแมวโดดเด่นจากสัตว์ชนิดอื่น การมีเอวคอดช่วยให้พวกเค้าเคลื่อนไหวผ่านพื้นที่แคบได้ง่าย แต่หากมีน้ำหนักเกิน ไขมันจะถูกเก็บสะสมบริเวณรอบเอว ทำให้เอวดูหนา
-
สัมผัสไม่พบกระดูกซี่โครง
การสัมผัสเป็นหนึ่งในวิธีตรวจสอบว่าน้องแมวมีน้ำหนักเกินหรือไม่ หากมีน้ำหนักเหมาะสม ลูบคลำผ่านลำตัวก็จะพบกระดูกซี่โครงได้ง่าย แต่หากมีน้ำหนักเกิน จะสัมผัสไม่พบกระดูกมีเพียงชั้นไขมันหนาเท่านั้น
-
ตัวสกปรกและมีขนพันกัน
ด้วยความยืดหยุ่นของร่างกาย ทำให้เจ้าเหมียวเลียตัวทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง แต่เมื่อมีน้ำหนักเกินก็มักจะสูญเสียความยืดหยุ่นนี้ไป ทำให้เลียขนได้ยาก ตัวจึงตัวสกปรกและขนเป็นสังกะตัง
-
มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร
น้องแมวที่น้ำหนักเกินมักจะเสี่ยงต่อปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากมีไขมันสะสมมากบริเวณลำไส้ ซึ่งขัดขวางการทำงาน และทำให้ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารลดลง
-
ไม่ยอมลุกหรือขยับตัว
น้องแมวมีนิสัยชอบเล่นและเต็มไปด้วยพลัง แต่เมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น การเคลื่อนไหวร่างกายก็ยากขึ้นและมักจะหมดแรงได้ง่าย แมวอ้วนส่วนใหญ่จึงมักจะนอนเฉย ๆ หลีกเลี่ยงการลุกหรือเดินไปมา
สาเหตุของโรคอ้วนในแมว
-
ไม่ออกกำลังกาย
แมวที่ไม่ชอบออกกำลังกาย มีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนสูง เนื่องจากแคลอรีส่วนเกินถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกายในรูปแบบของไขมัน
-
สภาพแวดล้อม
แมวที่เลี้ยงในบ้านมักมีปัญหาน้ำหนักเกิน เพราะกิจวัตรประจำวันที่เรียบง่าย ไม่ค่อยใช้แรงและไม่ค่อยทำกิจกรรม
-
ปัญหาสุขภาพ
ปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความผิดปกติของการเผาผลาญหรือต่อมไร้ท่อ ก็มีส่วนทำให้น้องแมวอ้วนได้
-
สูตรอาหาร
การให้อาหารแมวที่มีแคลอรีสูงเป็นประจำ อาจนำไปสู่โรคอ้วนและเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพแมวที่ร้ายแรง
-
ให้อาหารมากเกินไป
น้องแมวมักจะหยุดกินไม่ได้ การให้อาหารมากเกินอาจนำไปสู่ปัญหาน้ำหนักตัวและเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
-
การกินอาหารเร็ว
การกินอาหารเร็วหรือมูมมามถือเป็นสาเหตุหลักของปัญหาน้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วนในแมว
-
ารให้ขนมมากเกินไป
ขนมแสนอร่อยอาจดีต่อใจ แต่หากให้มากไปก็ส่งผลให้เกิดโรคอ้วนได้ เนื่องจากขนมมีปริมาณแคลอรีสูง
ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน
-
เบาหวาน
โรคอ้วนส่งผลให้อินซูลินไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจำเป็นต่อการสลายน้ำตาล แมวอ้วนเกินไปจึงมีโอกาสเป็นเบาหวานได้ง่ายขึ้น
-
ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
นักวิจัยเชื่อว่าระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องเป็นผลมาจากโรคอ้วนในแมว ทาสแมวจึงควรดูแลไม่ให้แมวตัวอ้วนกลมจนเกินไป
-
ตับวาย
เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่อันตรายถึงชีวิต โดยไขมันส่วนเกินจะขัดขวางการทำงานของตับ ซึ่งนำไปสู่ภาวะตับวายได้<7p>
-
โรคหัวใจ
น้องแมวที่น้ำหนักตัวมากเกินไปมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจมากกว่าปกติ โดยทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้
-
โรคระบบทางเดินหายใจ
เนื่องจากมีไขมันส่วนเกินสะสมบริเวณหลอดลม จึงทำให้หายใจลำบาก และนำไปสู่ความผิดปกติที่รุนแรงได้ในที่สุด
-
ภาวะคลอดยาก
โรคอ้วนเป็นสาเหตุหลักของภาวะคลอดยาก เนื่องจากการสะสมของไขมันทำให้การบีบตัวของมดลูกไม่ดีและเกิดขึ้นไม่บ่อย
วิธีลดน้ำหนักให้แมวอ้วน ทำอย่างไรได้บ้าง?
-
กำหนดปริมาณแคลอรี
อาหารแคลอรีสูงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคอ้วน บวกกับชอบกินขนม เนื้อวัว และเนื้อหมูรมควันซึ่งมีแคลอรีสูงด้วย เพื่อป้องกันปัญหาน้ำหนักเกิน ควรควบคุมปริมาณแคลอรี รวมถึงเลือกสูตรอาหารที่เหมาะสมและมีสารอาหารครบถ้วน
เทมเทชันส์™ พ็อคเก็ต ขนมของเจ้าเหมียวสายกิน อร่อยกรุบกรอบสอดไส้ครีม แคลอรีต่ำ เพียง 2 แคลอรีต่อหนึ่งเม็ด อร่อยเพลินไปกับเทมเทชันส์™ ครีมมี่ เพอเร่ เพียง 8 แคลอรีต่อซองก็ได้
-
ให้อาหารตามเวลา
แม้ว่าการให้อาหารแบบอิสระจะสะดวกต่อทาสแมวหลาย ๆ คน แต่มันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องแมวตัวอ้วนกลม เนื่องจากพวกเค้าสามารถกินอาหารได้ตลอดเวลาและมากเท่าที่ต้องการ วิธีนี้จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับบ้านที่ต้องการควบคุมน้ำหนักแมว ในทางกลับกันเจ้าของควรจัดตารางเวลาและกำหนดปริมาณอาหารให้เหมาะสม โดยสามารถเลือกใช้เครื่องให้อาหารแบบอัตโนมัติเป็นตัวช่วยด้วยก็ได้
-
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นการป้องกันโรคอ้วนที่ดีที่สุดและช่วยให้แมวอ้วนลดน้ำหนักส่วนเกินได้ สำหรับน้องแมวที่เลี้ยงระบบปิดหรือเลี้ยงในบ้าน อาจมีกิจกรรมให้เลือกทำไม่มาก โดยวงล้อออกกำลังกายเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับแมวตัวอ้วนในบ้าน เพราะทั้งสนุกและได้เคลื่อนไหวร่างกายนานหลายชั่วโมง เจ้าของอาจหาเกมสนุก ๆ มาให้พวกเค้าทำก็ได้ นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย
-
การรักษาด้วยยา
แม้ว่าการรักษาด้วยยาจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มันเป็นทางเลือกสุดท้ายที่สัตวแพทย์จะแนะนำ โดยจะใช้เมื่อน้องแมวไม่สามารถลดน้ำหนักได้เองหรือเริ่มแสดงอาการผิดปกติทางสุขภาพขั้นรุนแรง ยา Bupropion naltrexone, Liraglutide และ Orlistat เป็นยาที่นิยมใช้กับแมวอ้วนเกินไป ทั้งนี้เจ้าของไม่สามารถให้ยาด้วยตัวเองได้ ควรให้ตามคำแนะนำของคุณหมอเท่านั้น
-
ปรึกษาสัตวแพทย์
แม้ว่ายาบางชนิดจะรักษาโรคอ้วนในแมวได้ผลดี แต่ควรใช้ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หากน้องแมวอ้วนเกินไปหรือเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เป็นอันดับแรก เนื่องจากการตรวจสุขภาพจะช่วยให้วินิจฉัยได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าสาเหตุที่แมวอ้วนเกินไปมาจากความผิดปกติทางร่างกายหรือไม่ มีปัญหาสุขภาพใดแอบแฝงอยู่หรือเปล่า นอกจากนี้คุณหมอยังสามารถแนะนำสูตรอาหารสำหรับควบคุมน้ำหนักและวิธีการดูแลที่เหมาะสมได้อีกด้วย
ถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาแมวอ้วน
-
น้องแมวควรมีน้ำหนักเท่าไหร่?
น้ำหนักที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับช่วงวัยและสายพันธุ์ น้องโตเต็มวัยควรมีน้ำหนักประมาณ 4 - 9 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
-
ทำหมันแล้วน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นใช่หรือไม่?
แมวหลังทำหมันอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมันส่งผลต่อพฤติกรรมและการทำกิจกรรม รวมถึงทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุลชั่วคราว ความอยากอาหารจึงเพิ่มขึ้น
-
ควรให้น้องแมวในบ้านออกกำลังกายอย่างไร?
การเล่นเป็นวิธีออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับแมวในบ้าน ควรเลือกเกมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย หรือใช้วงล้อสำหรับวิ่งแทนก็ได้
-
แมวอ้วนมีภาวะซึมเศร้าได้หรือไม่?
แมวส่วนใหญ่ชอบเล่น แต่การเคลื่อนไหวร่างกายอาจเป็นเรื่องยากสำหรับแมวตัวอ้วน ซึ่งอาจทำให้พวกเค้ารู้สึกเครียดและกังวลได้
-
ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนลดน้ำหนักให้แมวไหม?
น้ำหนักที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับอายุและสายพันธุ์ บวกกับน้องแมวอาจมีโรคประจำตัวที่ทำให้อ้วน จึงควรปรึกษาคุณหมอให้ดีก่อน